วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จริงหรือไม่ที่ โตโยต้ามอเตอร์ ขายดีเฉพาะในบ้านเรา ที่อื่นขายไม่ค่อยได้

ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอขอบคุณ บจก.ไทย พรอสเพอรัส ไอที ผู้นำด้านระบบจีพีเอสติดตามรถยนต์ ด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน นำเข้าจากผู้ผลิตโดยตรง คุ้มค่ากว่า ที่ได้เอื้อเฟื้อพื้นที่บล็อกดีๆ

หลังจากที่ผู้เขียนได้ห่างหายไปหลายวันสำหรับการนำเสนอเรื่องราวดีๆ ในวงการรถยนต์โดยเฉพาะในประเทศไทย วันนี้ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า "จริงหรือไม่ที่ โตโยต้ามอเตอร์ ขายดีเฉพาะในบ้านเรา ที่อื่นขายไม่ค่อยได้" ผู้เขียนจะได้แนบยอดขายรถขายดีที่อเมริกาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีพ.ศ.2557 โดยหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal(WSJ) เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนระหว่างชื่อรุ่นที่อเมริกากับบ้านเราที่ต่างกันเฉพาะยี่ห้อนิสสันเท่านั้น เช่น นิสสัน Altima ที่อเมริกา บ้านเราใช้ชื่อว่า นิสสัน Teana และ นิสสัน Sentra ที่อเมริกา บ้านเราใช้ชื่อว่า นิสสัน Sylphy เป็นต้น



กลุ่ม ดีเซกเมนท์
1. โตโยต้า คัมรี   222,540 คัน
2.  ฮอนด้า แอคคอร์ด   178,390 คัน
3.  นิสสัน อัลติมา  176,453 คัน
4.  ฮุนได โซนาต้า  106,347 คัน

กลุ่ม ซีเซกเมนต์
1. ฮอนด้า ซีวิค  167,097 คัน
2. โตโยต้า โคโลล่า 174,354 คัน
3.  ฟอร์ด โฟกัส  120,956 คัน
4.  เชฟโรเลต ครูซ 145,338 คัน
5.  ฮุนได อีลันตร้า  112,497 คัน
6.  นิสสัน เซนทรา  93,898 คัน

โฆษณาเปิดตัว MG6 ยนตรกรรมอังกฤษ ภายใต้บังเหียนของ SAIC และ CP

MG6 ยนตรกรรมอังกฤษเปิดตัวแล้ว ราคาเริ่มต้น 8.5 แสน ดับเครื่องชน C Segment ไทย

MG6 ภายใต้บังเหียนของ SAIC และ CP ได้ฤกษ์เคาะราคาออกมายั่วใจสาวกผู้ชื่นชอบในแบรนด์อังกฤษนี้เสีย ที เคาะราคาเริ่มต้นที่ 8.48 แสนบาท MG6 2014 ใหม่ สะท้อนปรัชญาการออกแบบ Brit Dynamic โดย มีศูนย์กลางการออกแบบอยู่ที่เมืองเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีทีมออกแบบและวิศวกรมืออาชีพมากกว่า 300 คน จนกลายมาเป็นตัวถัง 2 แบบ ได้แก่ ซีดานและฟาสต์แบ็ค รูปแบบของรถยนต์ฟาสต์แบ็คของเอ็มจี6 นั้น ทำให้รถคันนี้มีความแตกต่างที่ชัดเจนจากบรรดาคู่แข่งทั่วไป ขณะ ที่ทั้งรุ่นฟาสต์แบ็คและซีดาน ก็ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสมรรถนะทางด้านอากาศพลศาสตร์อย่างสูงสุด โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ





สปอยเลอร์ที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ มาพร้อมระบบ Air-Flow Tuner Plus ให้สมรรถนะตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้น

ส่วนภายในใช้โทนสีดำ เบาะหนังแท้เดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง ปรับ ไฟฟ้า 6 ทิศทางในฝั่งผู้ขับ (ยกเว้นรุ่น C) เบาะนั่งด้านหลังปรับแบบ 60:40 พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงและหน้าจอแสดงการขับขี่ มาตรวัดแบบเรืองแสง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศ Dual-zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบ Cruise Control ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมระบบสตาร์ทอัจฉริยะ แผงบังแดดด้านหน้าพร้อมไฟส่องสว่าง และม่านบังแดดด้านหลัง

เครื่องยนต์ของ MG6 มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์Turbo TCI ที่ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบ DVVT ที่ให้
กำลังสูงสุด 134 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบต่อนาทีทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 6 สปีด ที่ใช้เวลาในการเปลี่ยนเกียร์ต่ำเพียง 0.2 วินาที และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไดประกอบไปด้วยโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกัน 5 โหมด

ด้วยการพัฒนารูปแบบของเครื่องยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากปอร์เช่ และ ระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำแบบรถแข่ง จุดสำคัญอื่น ๆ ของเครื่องยนต์ประกอบไปด้วย ระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์เอ็มเอฟไอ (Multipoint Fuel Injection) วาล์วแปรผันอัจฉริยะ DVVT (Double Variable Valve Timing) ระบบการจัดการเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ EMS6204 และระบบควบคุมวาล์วแบบอีเลคทรอนิครุ่นใหม่

เอ็มจี6 มาพร้อมระบบความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังการเกิดเหตุที่มีประสิทธิภาพ นวัตกรรมการออกแบบตัวถัง USD (Ultimate Stiffness Design) ที่มีการใช้งานโลหะที่มีความแข็งแกร่งและโลหะที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ มากถึง 63% เอ็มจี6 ทุกรุ่นจะมาพร้อมคานรับแรงกระแทกด้านข้าง และผ่านมาตรฐานการทดสอบการชนระดับ 4 ดาวจากยุโรป

มีการติดตั้งระบบช่วยเหลือทางด้านความปลอดภัยทั้งสิ้น 10 ระบบในรถยนต์เอ็มจี6 ซึ่ง ประกอบไปด้วย ระบบช่วยควบคุมแรงเบรกเมื่อรถไถลลื่น (VSC) ระบบเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่โดยลดการลื่นไถล (TCS) ระบบป้องกันการลื่นเมื่อเร่งความเร็ว (MSR) ระบบช่วยควบคุมแรงดันถังเบรก (CBC) ระบบช่วยกระจายแรงเบรค (EBD) ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรคฉุกเฉิน (ABS) ระบบตรวจสอบแรงดันยางรถยนต์อัจฉริยะ (ITPMS) ระบบทำความสะอาดจานเบรคอัจฉริยะ (BDC) ระบบควบคุมการเบรคฉุกเฉิน (BAt) และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS)

มาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง ประกอบไปด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า และถุงลมนิรภัยด้านข้าง ขณะ ที่ระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ประกอบไปด้วยเก้าอี้โดยสารทรงรถแข่งที่ออกแบบมาเพื่อรองรับตัวผู้โดยสาร พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ และวาล์วตัดการทำงานของน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น


ขอขอบคุณที่มา http://auto.sanook.com/ และบริษัทไทย พรอสเพอรัส ไอที จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการระบบจีพีเอสติดตามรถ ด้วยทีมงานวิศวกรและอุปกรณ์ชั้นนำระดับโลกที่ผ่านมาตรฐานหลายๆประเทศทั่วโลก