ลองขับ BEST SUV IN JAPAN NISSAN X-TRAIL โดย อาคม รวมสุวรรณ

ลองขับ BEST SUV IN JAPAN NISSAN X-TRAIL

โดย อาคม รวมสุวรรณ 22 ม.ค. 2558 14:43

• 
  

การตั้งหน้าตั้งตาจับผิดรถคันใดคันหนึ่งนั้น ดูเหมือนจะเป็นการจงใจแบบมีอคติมากจนเกินไป บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม 2558 ผมพบตัวเองกำลังขับเจ้า Nissan X-Trail มุ่งหน้าไปยังอำเภอมวกเหล็ก เจ้านี่คือ Crossover + SUV รุ่นใหม่จาก Nissan ที่กำลังทำตลาดในประเทศไทยหล้งจากออกขายที่ญี่ปุ่นและอเมริกา รวมถึงยุโรป ค่าย Nissan มักผลิตรถออกมาในแบบที่คนทั่วไปสามารถขับได้แบบไม่ยาก ช่วงล่างเน้นความนิ่มนวลนั่งสบายเป็นหลัก งานวิศวกรรมยานยนต์จาก Nissan จะออกมาในแนวเรียบง่ายสวยงามและเต็มไปด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัยคอยเอาอกเอาใจประคบประหงมจ้าของให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางบนการใช้งานในชีวิตประจำวัน รถ Nissan X-Trail รุ่นใหม่ยังคงเรือนร่างในแบบที่มองครั้งเดียว ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นรถผลิตโดยแบรนด์ Nissan เจ้า X-Trail จัดป็น SUV ที่ติดแนวหรูและมีความแตกต่างจาก X-Trail รุ่นที่ผ่านมาราวฟ้ากับเหว เนื่องจาก X-Trail ตัวเก่านั้นถูกทำให้ออกมาในลักษณะออฟโรดเต็มรูปแบบมากกว่าจะออกมาในแนวอเนกประสงค์กึ่งหรูหราเหมือนกับคันที่ผมกำลังขับอยู่ในเวลานี้

รุ่น 2.5V 4WD ประกอบด้วย อุปกรณ์ที่โดนใจอย่าง Panoramic Roof ที่ทำงานเปิด-ปิดหลังคาด้วยไฟฟ้า ฝาท้ายก็ยังเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าอีกเหมือนกันคล้ายกับฝาท้ายของ BMW X3 ที่มีราคาแรงกว่ากันเยอะ เครื่องยนต์ของ X-Trail รุ่นสูงสุด 2.5V 4WD เป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25DE 4 สูบ ความจุ 2,488 ซีซี 171 แรงม้ากับแรงบิด 233 นิวตันเมตร หรือ 23.8 กิโลกรัมเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ X-Tronuc CVT (อีกแล้ว) แบบแปรผันอัตราทดได้ 7 สปีด ตั้งแต่เริ่มต้นออกเดินทางจากย่านสาทร มายังถนนมิตรภาพ เจ้า X-Trail พยายามแสดงตัวตนให้เห็นว่า มันเองก็มีดีอยู่เหมือนกัน

สภาพการขับขี่โดยรวมในเมือง เจ้า X-Trail พยายามผ่องถ่ายความนิ่มนวลให้ได้สัมผัสอย่างต่อเนื่อง จากระบบรองรับที่ถูกปรับเซตค่ามาเพื่อความสบายเนื้อสบายตัว มันวิ่งได้เป็นอย่างดีบนทางในเมืองที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ทัศนวิสัยที่เปิดโล่งจากความสูงของเบาะโดยสาร พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาสบายมือในย่านความเร็วต่ำ สำหรับการขับในเมือง กระจกบังลมทุกบานออกแบบมาเพื่อทำให้คนขับและผู้โดยสารรู้สึกถึงความโปร่งโล่งมองเห็นได้รอบตัว และมองได้ไกลมากว่านั่งอยู่ในรถแบบซีดาน จากสัดส่วนความสูงที่เป็นต่อรถเก๋งขนาดกลางทั่วๆ ไป แม้ความสูงของ X-Trail จะไม่สูงโย่งเท่ากับ Toyota Fortuner / Isuzu MU-X / Mitsubishi Pajero Sport แต่ก็ไม่ได้เป็นรองในด้านของมุมมองรอบตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ห้องโดยสารทำออกมาได้ดี จากสีสันและการจัดวางที่บ่งบอกตัวตนว่าเป็นรถของ Nissan พวงมาลัยแบบสามก้าน หุ้มกรอบด้วยพลาสติกสีเงินเต็มไปด้วยปุ่มและสวิตช์สั่งงาน เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า สำหรับเบาะคนขับจะปรับได้กว้างและครอบคลุมท่านั่งมากกว่าเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ส่วนเบาะหลังรวมถึงเบาะแถวที่สามอีกสองที่นั่ง สามารถพับราบลงกับพื้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ มาตรวัดอ่านค่าได้ชัดเจนจากตำแหน่งของการติดตั้ง หากปรับพวงมาลัยดีพอก็จะสามารถมองเห็นหน้าปัดมาตรวัดได้ทั้งหมด ใจกลางของมาตรวัดยังมีจอแสดงผลแบบ TFT หรือ Thin film transistor ที่มีความคมชัดสูง จอแสดงผล TFT ขนาดเล็กใช้แจ้งเตือนการทำงานของระบบต่างๆ ที่ขึ้นตรงต่อการขับใช้งานทั่วไป ส่วนมาตรวัดความเร็วและมาตรวัดรอบตัวเลขและเข็มสีขาวออกแบบมาให้อ่านค่าได้อย่างชัดเจนจากความคมชัดของมาตรวัดแบบเรืองแสง

คอนโซลขึ้นรูปด้วยวัสดุที่ทำหน้าที่เป็นฉนวนกักเก็บเสียงไปในตัว หุ้มด้วยหนังเทียมทำออกมาได้ดีจากวัสดุที่ค่อนข้างมีราคาแพง สิ่งที่ดูแปลกตาก็คือ คิ้วพลาสติกคาดกลางคอนโซล ทำเลียนแบบลายคาร์บอนที่ดูคัดแย้งกับงานตกแต่งภายในของเจ้า X-Trail เบาะหุ้มหนังทุกตำแหน่งใช้หนังและฟองน้ำรองเบาะแตกต่างไปจาก X-Trail ที่ขายในญี่ปุ่น เนื่องจากฟองน้ำรุ่นที่จำหน่ายในแดนปลาดิบนั่งนิ่มสบายก้นกว่านิดๆ เบาะ แผงประตู และอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาในแนวหรูหรา น่าใช้งาน ตามสไตล์ของ Nissan ที่ชอบเอาอกเอาใจผู้ใหญ่สูงวัยที่ชอบความสบายนั่นเอง

พวงมาลัยไฟฟ้าในย่านความเร็วต่ำ ให้น้ำหนักที่ค่อนข้างเบาสบายมือ ทำให้การขับถอยเข้าออกพื้นที่แคบๆ เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย การปรับน้ำหนักของพวงมาลัยไฟฟ้าเกิดจาก ECU ที่ใช้ควบคุมการแปรผันน้ำหนักที่ขึ้นตรงกับความเร็วเป็นหลัก ระบบป้องกันอาการโคลงตัวที่ Nissan ใส่มาให้ช่วยทำให้เจ้า X-Trail วิ่งได้อย่างนิ่มนวล แม้จะใส่ยางเส้นโตถึง 225/65R18 ระบบนี้จะเข้ามาช่วยลดอาการโคลง เมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่มีความสม่ำเสมอ ล้ออัลลอยลายใหม่ มีดีไซน์ที่ทันสมัยจนไม่มีความจำเป็นต้องไปดิ้นรนเสียเงินเพิ่มอีก อย่างที่เคยบอกว่า Nissan นั้น มีความชำนาญเป็นพิเศษในการปรับชุดบังคับเลี้ยวให้สื่อสารกับคนขับได้อย่างเหลือเชื่อ แม้จะมีราคาไม่สูงเท่ากับ BMW X1 หรือ X3 แต่การบังคับควบคุมนั้นไม่ได้ตกเป็นรองรถ SUV ราคาแพงมากนัก

พวงมาลัยให้ความแม่นยำทั้งในย่านความเร็วต่ำในเมือง ไปจนถึงการวิ่งด้วยความเร็วเดินทางบนไฮเวย์ ที่ค่อนข้างจะเร็วเป็นพิเศษ เมื่อมันอยู่ในมือของสื่อมวลชนที่ต้องการรู้ประสิทธิภาพแท้จริงในการทำงาน ระยะของการหมุนที่ดี รวมถึงความเฉียบคมของช่วงล่าง ทำให้มันเป็น SUV อีกคันที่วิ่งข้ามจังหวัดบนไฮเวย์ลาดยางได้ดั่งใจนึก คุณจะพบว่าเบาะของเจ้า X-Trail เป็นพื้นที่ที่ให้ความสบายเมื่อพบเจอกับทางลาดยางเรียบๆ มันก็จะโลดแล่นไปบนทางแบบนั้นด้วยความนิ่มนวล (มากกว่าคู่แข่งอย่าง CX-5 อยู่นิดๆ) รูปแบบของตัวรถจากความหลากหลายของอุปกรณ์กับการเซตค่าความแข็งของสปริงและโช้กคอัพ คือ ความสมบูรณ์แบบที่วิศวกรของค่ายมอบให้กับคุณด้วยความจริงใจ

X-Trail รุ่นที่แล้วมีหน้าตาที่เชยสุดๆ ทั่วทั้งคันเต็มไปด้วยเหลี่ยมมุม พร้อมกับอุปกรณ์ที่จะทำให้การลุยเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเท่าที่คุณต้องการ มันคือ SUV พันธุ์แท้คันสุดท้ายของ Nissan ก่อนที่สายพันธุ์จะถูกปรับให้มีส่วนผสมของ Crossover มากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนสไตล์และรูปแบบของ X-Trail รุ่นใหม่ ให้มีความโค้งมนมากขึ้นช่วยให้ตัวรถไม่ดูเทอะทะมากไป ส่วนผสมที่ดีของรถยนต์นั่งกับความปราดเปรียวของ New X-Trail ที่ถึงแม้จะเป็นรอง Mazda CX-5 ในด้านเรือนร่างรูปลักษณ์ แต่ความโปร่งโล่งของห้องโดยสารและความลื่นไหลของผิวตัวถังเข้ามาช่วยทำให้รถรุ่นนี้สวยงามขึ้นกว่าเดิม ภายในที่โอ่โถง X-Trail มีทุกอย่างเท่าที่ SUV ดีๆ คันหนึ่งพึงมี เมื่อมากับอุปกรณ์แบบเต็มระบบและการขับเคลื่อนแบบ 2/4 ล้อ ก็ยิ่งมีความเป็นรถออฟโรดมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ SUV หรูทั่วไปที่เจ้าของรถสามารถขับลุยได้อย่างไม่ต้องไปกังวล (แต่จริงๆ แล้วไม่ค่อยมีใครเอาไปลุยแหลกสักเท่าไร) ระบบขับเคลื่อนที่สามารถปรุงแต่งได้ตามสถานการณ์ของการขับขี่ทั้งบนทางเรียบ ลุยทางขรุขระ หรือแม้ในขณะที่พบเจอเข้ากับสภาพทางที่เปียกชื้น ระบบขับเคลื่อนที่สามารถปรับจากขับ 2 ล้อมาเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยทำให้การขับไปบนทางวิบาก หรือขับฝ่าพายุฝนง่ายดายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เมื่อเข้าสู่การขับเคลื่อนแบบทุกล้อ แรงบิดจะเฉลี่ยไปที่หน้า-หลังเท่ากันที่ 50/50 เพื่อส่งถ่ายแรงบิดไปยังทุกล้อให้เท่ากันทั้งหมด เพื่อความเสถียรสูงสุดขณะทำการลุย ระบบต้านอาการโคลงตัวช่วยลดแรงบิดที่ล้อด้วยการเบรกอัตโนมัติ ทำให้การควบคุมในทุกย่านความเร็ว เป็นเรื่องไม่ยากเย็นแสนเข็นอีกต่อไป

X-Trail รุ่นที่ขายในยุโรปมีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.6 ลิตร 130 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตันเมตร หรือ 32 กิโลกรัมเมตร ซึ่งเครื่องดีเซลรุ่นดังกล่าว Nissan ไม่ได้นำมาจำหน่ายในประเทศไทย สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า มีการทำงานที่ราบเรียบและมีเสียงการทำงานในรอบเดินเบาเงียบจนแทบจะไม่ได้ยิน เครื่องยนต์ QR25DE ถูกปรับย่านแรงบิดให้มีความเหมาะสมกับระบบส่งกำลังแบบ X-Tronic ที่ทาง Nissan แจ้งมาว่าเป็นเกียร์ออโต CVT รุ่นปรับปรุงล่าสุด เกียร์ X-Tronic CVT ลูกใหม่ยังมีการออกแบบผู้ขับขี่สามารถปรับอัตราทดขึ้น-ลงด้วยตัวเอง โดยออกแบบให้เกียร์ CVT มีการผกผันอัตราทดคล้ายเกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบฟันเฟือง ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 7 สปีด

เกียร์ CVT ของ NIssan ขึ้นชื่อในด้านความเรียบเนียนของการตัดต่อขึ้นลงไปตามความเร็วรอบ ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลปราศจากอาการกระตุกกระชาก เกียร์ CVT ลูกนี้ไม่มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แต่ใช้การโยกคันเกียร์มาทางด้านขวาสุดในตำแหน่ง +/- คล้ายกลไกแบบ Triptronic เพื่อทำการชิฟเกียร์ขึ้น-ลงให้มีความสัมพันธ์ไปกับสภาพเส้นทาง เมื่อผมลองใช้งานดูก็พบว่ามันตอบสนองต่อการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะราบเรียบจนไร้ความรู้สึกยามตัดต่อขึ้นลง แต่ก็ส่งถ่ายความสบายเวลาขับใช้งาน เมื่อมันไม่มีการกระตุกให้เห็นแม้แต่นิดเดียว ระบบป้องกันการเปลี่ยนเกียร์ที่ไม่สัมพันธ์กับรอบของเครื่องยนต์ ยังช่วยทำให้เกียร์ไม่กระจายก่อนเวลาอันควร

บนทางลาดยางสองเลนที่จะมุ่งหน้าไปยังอำเภอหมูสี พวงมาลัยจากที่ขับมาเกือบ 200 กิโลเมตร ก็ยังคงแม่นยำเบาสบายมือ เป็นความรู้สึกสบายที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับการขับเร็วๆ ช่วงล่าง หลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการทำงานของแชสซีส์แบบใหม่ ที่จะมีการสั่งงานแบบอัตโนมัติ โดยแตะเบรกเบาๆ เพื่อลดอาการโคลงตัวเวลาวิ่งผ่านผิวถนนที่เป็นลอนคลื่น ด้วยความเร็วสูง มันจึงเป็นรถที่เก็บอาการได้ค่อนข้างดี โดยภาพรวม X-Trail เป็นรถ SUV ที่มีการทรงตัวดีคันหนึ่ง นั่งสบายก้นและเหมาะกับการขับทางไกลยาวๆ แบบไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ใช้การขับในลักษณะนี้ สำหรับการเดินทางออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งกับครอบครัวในวันหยุดพักผ่อน การขับแบบไปเรื่อยๆ บน X-Trail แทนที่จะขับแบบสาดทุกโค้ง จะทำให้การใช้รถยนต์ที่มีสัดส่วนความสูงมากกว่ารถทั่วไป มีความปลอดภัยในระดับที่ช่วยให้คุณและครอบครัวไปถึงยังจุดหมายปลายทางได้โดยไม่มีความเสียวสยองเข้ามาเกี่ยวข้อง หากจำเป็นต้องขับเร็ว New Nissan X-Trail ก็ยังมีช่วงล่างและการกระจายน้ำหนักที่ดี ตลอดจนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีความโดดเด่นด้านสัมผัสมาคอยช่วยประคับประคอง ทำให้ทุกอย่างดูง่ายดายขึ้น

บอกลาพลาสติกเชยๆ แข็งๆ ในรุ่นเก่า แผงหน้าปัดแบบใหม่กับคอนโซลใช้วัสดุดีขึ้น จนกลบภาพลักษณ์ของ SUV ตัวลุยไปจนหมดสิ้น วัสดุที่ให้สัมผัสแบบใหม่ พร้อมการตกแต่งด้วยโทนสีดำสสลับขาวแบบผิวของเปียโน งานตกแต่งซุ้มเกียร์และพนักเท้าแขนที่ออกแบบให้เป็นกล่องเก็บของ ปุ่มและสวิตช์ที่สวยงาม รวมกับจอภาพที่รวบรวมเอาทุกระบบของการสื่อสารติดต่อกับโลกภายนอก คุณจะพบว่า ราคาค่าตัวของ Nissan X-Trail นั้น ไม่แพงเลย เมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้รับ หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อระบบนำทางและอื่นๆ ครบจนเล่นกันไม่หมด ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง เพื่อกระจายความเย็นให้กับผู้โดยสารตอนหลัง ฝาท้ายที่เปิดและปิดได้ด้วยการกดเบาๆ ไปที่สวิตช์เพียงครั้งเดียว ช่วยให้การถือของชิ้นโตๆ เพื่อยัดเข้าไปยังห้องเก็บสัมภาระส่วนท้าย ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็นอีกต่อไป

สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุด หลังจากที่ได้ลองขับ ก็คือ การบังคับควบคุมที่อยู่ในเกณฑ์ดี พวงมาลัยไฟฟ้าทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ในทุกย่านความเร็ว ระบบขับเคลื่อนทั้งสองล้อและสี่ล้อช่วยให้คุณไปในทางที่รถเก๋งส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง อุปกรณ์ที่ให้มาในรุ่นสูงสุดเยอะมาก จนจำไม่ไหว ใช้ไม่หมด คุณภาพในการประกอบทั้งตัวถังและภายในห้องโดยสารดูดี และมีประสิทธิภาพเมื่อมันถูกขับใช้งาน โดยเฉพาะการวิ่งทางยาวๆ NIssan X-Trail เป็นรถ SUV + Crossover ที่มีความน่าใช้งานอีกคันหนึ่งในวงการรถออฟโรดหรู เป็นรถ 7 ที่นั่ง ที่มีความคุ้มค่า และหาตัวเปรียบเทียบได้ยาก ในราคาและขนาดของเรือนร่างแบบนี้ หากชอบจริงหวังแต่ง ก็ควรจะหามาใช้งานสักคันสำหรับการออกเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัว

คุณจะพบทั้งความโปร่ง โล่ง และความนิ่มนวล แม้ X-Trail จะมีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างเป็นรองคู่แข่งอยู่บ้าง แต่เรือนร่างและสมรรถนะ ตลอดจนพื้นที่ใช้สอยในส่วนเก็บสัมภาระ ถูกอกถูกใจใครหลายคนโดยเฉพาะผู้คนในประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดเมืองนอนของแบรนด์ Nissan ทำให้มันขึ้นไปติดอันดับที่หนึ่งของรถออฟโรดขายดีในญี่ปุ่น เมื่อปีที่ผ่านมา เป็นการครองตำแหน่งด้วยความสามารถล้วนๆ แซงหน้ารถคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นก็แล้วกัน.

Nissan X-Trail 2.0S 2WD ราคา 1,172,000 บาท
Nissan X-Trail 2.0E 2WD ราคา 1,246,000 บาท
Nissan X-Trail 2.0V 4WD ราคา 1,325,000 บาท
Nissan X-Trail 2.5V 4WD ราคา 1,551,000 บาท (คันทดสอบ)

ข้อมูลจากบริษัท Nissan
Nissan จัดหนักใน New X-Trail โดยใช้ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้มันมีดีเหนือกว่าคู่แข่ง ทั้งราคาและอุปกรณ์ วิศวกรของแบรนด์ Nissan ใช้ความรู้ความสามารถเท่าที่มี ปรับปรุงแต่งเติมระบบขับเคลื่อน ชุดส่งกำลัง ระบบบังคับเลี้ยว และระบบรองรับ โดยมุ่งไปที่ความมั่นใจ ความสะดวกสบายและความรื่นรมย์ในยามขับขี่ Nissan New X-Trail วางเทคโนโลยีเด่นๆ ที่ชูเป็นประเด็นในการถล่มคู่ต่อสู้ดังนี้ คือ

ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่ง หรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake)
ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control)

ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor - AVM)

ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กับ Panoramic Sunroof

ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กับหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว

ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ กับไฟหน้า LED โปรเจกเตอร์ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (Daytime running lights)

ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ราคาไม่เกิน 1.4 ล้านบาท กับประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบ

รูปลักษณ์
ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว เสา D และซุ้มล้อใหญ่ที่เป็นจุดเด่นของรถยนต์อเนกประสงค์ ผสานความโค้งมนของเส้นสายด้านข้างจากไฟหน้า LED จรดยังไฟท้ายที่ออกแบบใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ X-Trail ใหม่ยังมีจุดเด่นอื่นๆ อีก คือ ซันรูฟแบบพาโนรามิค พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบวันทัช ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED เบาะที่นั่งภายในแบบ 3 แถว ฐานล้อที่ได้รับการปรับให้ยาวขึ้น เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบล้ออัลลอยแบบสปอร์ต ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น 2.0) และขนาด 18 นิ้ว (รุ่น 2.5) ยางขนาด 225/65 R 17 (รุ่น 2.0) และขนาด 225/60 R18 (รุ่น 2.5) ไฟหน้าแบบ Projector LED พร้อมไฟเดย์ไลท์ LED รูปทรงด้านหน้าที่สอดรับกับเส้นกระจังหน้า ด้านข้างจัดวางเส้นสายเน้นความบึกบึน พร้อมกับสวมล้ออัลลอยขนาด 17 และ 18 นิ้ว ดีไซน์สวยสปอร์ต ด้านบนมีหลังคา Panoramic Sunroof หรูหรา ส่วนท้ายรถโค้งมนลื่นไหล ไฟท้ายทรงห้าเหลี่ยมแนวยาวขนานไปกับฝาท้ายได้อย่างกลมกลืน สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ฝากระโปรงท้ายแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า มิติตัวถังยาว 4,240 มิลลิเมตร กว้าง 1,820 มิลลิเมตร สูง 1,720 มิลลิเมตร ฐานล้อกว้าง 2,702 มิลลิเมตร

ห้องโดยสาร
ภายในของ New X-Trail  ได้รับการออกแบบใหม่ ถ่ายทอดความทันสมัย ทั้งการออกแบบและอุปกรณ์ภายใน ที่มอบความสะดวกสบายและอรรถประโยชน์ในการใช้สอยได้อย่างลงตัวให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถ ด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ได้ออกแบบและพัฒนาให้มีเนื้อที่มากขึ้น กว้างขึ้นในทุกมิติ เป็นครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์กับที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ 3 แถว หรือ 5+2 ที่นั่ง เบาะที่นั่งด้านหลังกว้างขวาง ภายในเน้นความสะดวกสบายหรูหรา มีให้เลือกทั้งสีดำและสีเบจ เบาะนั่งหนังแบบ 3 แถว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มาตรวัดวงกลมคู่พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 5 นิ้ว สั่งการบนพวงมาลัย ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมกับระบบนำทางและระบบเชื่อมต่อ Nissan Connect และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกซ้ายขวา

พวงมาลัย 3 ก้านสไตล์สปอร์ต แบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบการทำงานของเครื่องเสียงและระบบเชื่อมต่ออื่นๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual zone ปรับแยกอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา หน้าจอแสดงผล 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมแสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ รวมทั้งการทำงานของระบบ Advanced Chassis Control ในแบบเรียลไทม์ และแสดงการทำงานของระบบขับเคลื่อน ในรุ่น 4WD

ระบบเครื่องเสียง
เครื่องเสียงที่ดีจะทำให้บรรยากาศของการขับมีความเพลิดเพลินกันได้บ้าง Nissan X-Trail มาพร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อสามารถเล่น CD, MP3, AUX, USB และระบบ Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Application อัพเดตข้อมูลผ่าน Facebook และค้นหาสถานที่ต่างๆ ผ่าน Google search เชื่อมต่อระบบนำทางบนรถได้ทันที

สมรรถนะการขับขี่
Nissan X-Trail มาพร้อมกับนวัตกรรมที่ล้ำสมัย รวมเทคโนโลยีเพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน มอบความมั่นใจและความปลอดภัยที่ไม่เป็นรองใครในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน เอ็กซ์เทรล พัฒนามาเพื่อลดการเสียดสีในระหว่างการทำงาน และเพิ่มช่วงอัตราทดเกียร์เพื่อช่วยให้เสริมประสิทธิภาพอัตราเร่ง โดยเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง ซึ่งเป็นเกียร์ X-TRONIC CVT รุ่นใหม่พร้อมระบบ manual mode 7 สปีด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DD ใหม่ ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบไดเร็กอินเจ็กชั่น กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงที่ 200 นิวตันเมตร เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุดที่ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 233 นิวตันเมตร รุ่น 2.0 ลิตร มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ส่วนรุ่น 2.5 ลิตร เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

อุปกรณ์และระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่และความปลอดภัย
กุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบ Immobilizer และสัญญาณกันขโมย
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
ระบบความปลอดภัยภายใต้แนวคิด นิสสัน Safety Shield
เอ็กซ์เทรล ใหม่ มาพร้อมกับโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Zone Body Concept) ที่มีความแข็งแกร่ง
ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC)
ระบบป้องกันการล้อหมุนฟรี (TCS)
ระบบเบรกป้องกันการล้อล็อก (ABS)
ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
ระบบเสริมแรงเบรก (BA)

ระบบ Advanced Chassis Control เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ป้องกันมิให้รถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน (HSA – Hill Start Assist)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน โดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรก (HDC – Hill Descent Control)
ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่ง หรือเข้าโค้ง (AEB- Active Engine Brake)
ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัว (ARC – Active Ride Control)
ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (ATC – Active Trace Control)
ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (ABLS – Active Brake Limited Slip)

Nissan X-Trail มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น สีภายในให้เลือก 2 แบบ คือ เบาะหนังสีดำและเบาะหนังสีเบจ และสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 6 สี คือ สีแดง เรเดียนท์ สีขาว สตอร์ม ไวท์ สีดำ แบล็ก สตาร์ สีเงิน บริลเลี่ยนท์ ซิลเวอร์ สีเทา ดีพ อริส เกรย์ และสีใหม่ สีเขียว มิดไนท์ เจด

 ผู้เขียนขอแนะนำเวบบล็อก www.credit-thai.com นำเสนอเรื่องราวดีๆ รวบรวมประสพการณ์ที่สามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ช่วยสร้างความภาคภูมิใจ ประหยัดงบประมาณ เขียนมาจากเรื่องจริงที่ผ่านการทดลองทำมาแล้วและได้ผล เพื่อให้เป็นองค์ความรู้ดีๆ สำหรับนำไปประยุกต์ใช้งานได้ในภายภาคหน้า